Menu

FAQ Jordan

ใช้ภาษาอาหรับเป็นภาษาราชการ แต่ชาวจอร์แดนส่วนใหญ่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้

เนื่องจากพื้นที่แถบตะวันออกกลาง มีอารายธรรมที่หลากหลาย เป็นดินแดนที่เจริญรุ่งเรื่องมาตั้งแต่ยุคโบราณเมื่อหลายพันปีก่อน รวมทั้งยังเป็นต้นกำเนิดศาสนาเก่าแก่ของโลก ทั้งยิว คริสต์ และอิสลาม สถานที่เที่ยวที่น่าสนใจ เช่น เพตรา ทะเลสาบเดดซี ทะเลแดง สถานที่สำคัญทางศาสนา เป็นต้น

สำหรับคนไทยที่ถือพาสปอร์ประเทศไทย ต้องขอวีซ่าก่อนเดินทางเข้าประเทศจอร์แดน โดยสามารถทำวีซ่าแบบ Visa on arrival ได้ที่สนามบิน ซึ่งจะมีฝั่งเคาน์เตอร์สำหรับขอวีซ่า ซึ่งอยู่บริเวณเดียวกับเคาน์เตอร์แลกเงิน ค่าทำวีซ่าอยู่ที่ประมาณ 40 JD เป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท

หากพำนักในประเทศจอร์แดนตั้งแต่ 2 คืนขึ้นไป สามารถขอคืนค่าวีซ่าได้ในวันเดินทางกลับประเทศไทย หรือจองโปรแกรมท่องเที่ยวของบริษัทฯ สามารถขอ Free Visa ได้

ประเทศจอร์แดน ใช้ระบไฟฟ้า  230 V 50 Hz  ใช้ปลั๊กไฟหลายรูปแบบทั้ง  Type C, D, F, G, J แล้วแต่โรงแรมที่พัก ซึ่งค่อนข้างลำบากหากต้องเตรียมหัวปลั๊กหลายชนิด จึงควรพก Universal power adapter ติดไปด้วยจะสะดวกมากขึ้น

อินเตอร์เน็ตซิมการ์ด จากประเทศไทย ยังไม่มีบริการครอบคลุมถึงประเทศจอร์แดน การเปิด Rooming จากประเทศไทยยังมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง โดยประมาณ 499 บาท/วัน (สอบถามผู้ให้บริการเครือข่ายในประเทศไทยอีกครั้ง) ลูกค้าสามารถซื้อซิมอินเตอร์เน็ตของประเทศจอร์แดนได้ ราคาประมาณ 25$ ซึ่งมีหลายเครือข่ายให้บริการ โดยเคาน์เตอร์ขายซิมอินเตอร์เน็ต จะอยู่ฝั่งซ้ายมือถัดจากประตูทางออกสนามบินแล้ว โดยพาสปอร์ 1 เล่ม สามารถซื้อซิมได้ไม่เกิน 3 ซิม

ประเทศจอร์แดน มีกฎระเบียบการแต่งกายคล้ายคลึงกับประเทศแถบอาหรับโดยทั่วไป คือ แต่งกายมิดชิด ชุดที่ใส่ ไม่สั้น หรือบาง จนเกินไป หากมีเยี่ยมชมสถานที่สำคัญทางศาสนา เช่น โบสถ์ มัสยิด ควรแต่งกายสุภาพ (คล้ายกับแต่งตัวไปกวัดในประเทศไทย)

เวลาในประเทศจอร์แดน ช้ากว่าประเทศไทย  4 ชั่วโมง ในฤดูร้อน และช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง ในฤดูหนาว

สกุลเงินจอร์แดน เรียกว่า ดิน่า หรือ Jordaian Dinar (JD) รหัสสากล คือ JOD มีอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 43.50 ดีนา ต่อ 1.4 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 48.80 บาท ต่อ 1 ดีน่า (กุมภาพันธ์ 2566) โดยเตรียมเงิน ดอลล่าร์ หรือ เงินยูโร ไปแลกเป็นเงิน ดีน่า ได้ที่ที่สนามบินอัมมาน เมื่อเดินทางไปถึง และควรแลกเฉพาะเท่าที่จำเป็นต้องใช้ อย่าแลกไว้เยอะ ไม่พอค่อยแลกเพิ่ม สถานที่ท่องเที่ยวหลายที่ รับเงินสกุล USD และ EUR บัตรเครดิต สามารถใช้ที่จอร์แดนได้ และควรแจ้งธนาคารเจ้าของบัตรก่อนการเดินทาง

ประเทศจอร์แดน รับประทานขนมปัง และชีสประเภทต่างๆ เป็นหลัก รถชาดอาหารไม่จัดจ้านเหมือนอาหารไทย อาหารส่วนใหญ่คนไทยสามารถรับประทานได้ ไม่มีกลิ่นฉุนของเครื่องเทศ ความหลากหลายของอาหารมีไม่มากนัก  หากเป็นคนติดอาหารไทย และรับประทานอาหารต่างชาติค่อนข้างลำบาก แนะนำให้เตรียมอาหารไทยไปเผื่อติดตัวไว้ อาหารต่างๆ ประกอบไปด้วย

  •  สลัดและผักสดชนิดต่างๆ รับประทานคู่กับ Dressing หลากหลายให้เลือก  ส่วนใหญ่จะรับประทานผักสลัดคู่กับน้ำมันมักอก
  • อาหารประเภทเนื้อสัตว์ เช่น ไก่ ปลา เนื้อ มีทั้งแบบทอด หรือย่าง โดยมากเน้นเป็นอาหารย่าง ไม่มีความหลากหลายของเมนูเนื้อสัตว์มากนัก
  • ผลไม้และขนมหวาน จะมีให้บริการตลอด โดยผลไม้จะจัดบริการตามฤดูกาล ส่วนขนมหวานชนิดต่างๆ มีรสชาดค่อนข้างหวานมากอาจไม่ค่อยถูกปากคนไทย

  • Tribal Jewelry: เครื่องประดับเงินพื้นเมืองผสมกับหิน ลูกปัด และเชือกหลากสี มีดีไซน์หลายแบบ ทั้งสร้อยข้อมือ สร้อยข้อเท้า สร้อยคอ และแหวน
  • Kajal or Kohl: อายไลเนอร์แบบแขก มีทั้งแบบผงและแบบแท่ง ทำจากสมุนไพร
  • Creams & Perfumes: น้ำหอมอาหรับ มีทั้งแบบครีม แบบน้ำ กลิ่นหอมเฉพาะสไตน์อาหรับ หอมติดทนนาน ราคาขึ้นอยู่กับแบรนด์สินค้า
  • Dead Sea Products: ผลิตภัณฑ์จากทะเลสาบเดดซี มีทั้งสบู่ โคลนบำรุงผิวพรรณ ครีมและโลชั่น มีมากมายหลายแบรนด์ให้เลือก

ให้จัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ส่วนตัว เช่น ชุดว่ายน้ำ ผ้าเช็ดตัว สบู่ ยาสระผม ครีมทาผิว ครีมกันแดด ขนาดพกพา แยกใส่กระเป๋าใบเล็ก หรือกระเป๋าสะพาย (ที่ทะเลสาบเดดซี มีห้องอาบน้ำไว้ให้บริการฟรี แต่ไม่มีอุปกรณ์อาบน้ำให้) สามารถลงเล่นน้ำได้ตามอัธยาศัย หรือจะพอกโคลนจากเดดซี ซึ่งมีให้บริการไม่ไกลจาดจุดลงเล่นน้ำ มีค่าบริการประมาณ 3 JD (1 JD = 50 บาท)

น้ำ เป็นทรัพยากรที่สำคัญและมีค่า ตามโรงแรมที่พักระดับ 3 ดาวขึ้นไป จะมีเครื่องผลิตน้ำจืดไว้ใช้เอง น้ำดื่มจากก๊อกสะอาด สามารถบริโภคได้ (แต่ไม่แนะนำ) โรงแรมที่พัก ห้องอาหารในโรงแรม ร้านอาหาร ไม่มีน้ำดื่มให้บริการฟรีต้องซื้อแยกต่างหาก และราคาค่อนข้างแพง (ประมาณ 2-3$, ขวด 1 ลิตร) ควรซื้อจากร้านขายของชำ หรือซุปเปอร์มาร์เก็ต (ราคาประมาณ 0.5-1$, ขวด 1 ลิตร)