Menu

Coptic & Islamic

โปรแกรมท่องเที่ยว Coptic & Islamic Cairo

(ท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี)

หรือ Old Cairo เป็นแหล่งรวมสถานที่สำคัญทางศาสนาของไคโร ของคอปติก อิสลาม และยิว ชมสถานที่ที่สันนิษฐานว่าครอบครัวของพระเยซู และพระเยซูเคยพำนักภายหลังอพยพมาจากเยรูซาเล็ม นอกจากนี้ยังมีโบสถ์สำคัญอื่นๆ ให้เชี่ยมชม เช่น Saints Sergius, Bacchus, Saint Barbara และโบสถ์แขวน ชมสุเหร่าที่สำคัญที่สุดของกรุงไคโร ชมทิวทัศน์มุมกว้างของเมืองจากป้อมปราการแห่งศตวรรษที่ 15 ของซาลาดิน

อุณหภูมิเฉลี่ย (°C)ม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.
สูงสุด / ต่ำสุด18/918/922/1227/1532/1834/2034/2233/2232/2028/1823/1419/10

มัสยิดอัล อัซฮัร (AL Azhar Mosque) มหาวิทยาลัยเก่าแก่ของโลก หลังจากที่ราชวงศ์ฟาฏีมีย์ยึดครองอียิปต์ได้สำเร็จ ได้สถาปนากรุงไคโรเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ ในปี ค.ศ. 969 และได้ก่อสร้างมัสยิดขึ้น ชื่อว่า ญามิอ์ อัล-กอฮิเราะห์ (อัล อัซฮัร) ใช้เวลาก่อสร้างนาน 2 ปี โดยเปิดให้ใช้เพื่อปฏิบัติศาสนกิจ และเป็นศูนย์การเรียนการสอนเกี่ยวกับศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์  ต่อมาศาสนาอิสลามนิกายซุนนี ได้แพร่ขยายเข้ามาในประเทศอียิปต์ และได้ใช้มัสยิดแห่งนี้เป็นศูนย์การเรียนการสอนเกี่ยวกับศาสนา และศาสตร์แขนงอื่นเพิ่มเติม จนกลายเป็นระบบโรงเรียน และมหาวิทยาลัยในเวลาต่อมา พร้อมกับเปลี่ยนชื่อมัสยิดจาก ญามิอ์ อัล-กอฮิเราะห์ เป็น อัล อัซฮัร ในปัจจุบัน มัสยิดแห่งนี้จึงเป็นเสมือนสถานศึกษาที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของโลก

ป้อมซาลาดีนหรือป้อมซิทาเดล (The Citadel of Saladin)  สร้างขึ้นในปี 1176 โดยกษัตริย์ซาลาดิน ใช้หินจากปิรามิด แห่งกีซ่า มาสร้างกำแพงเพื่อเป็นป้อมปราการป้องกันประเทศจากสงครามครูเสด ป้อมซิทาเดลเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะ ภายนอกป้อมสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของกรุงไคโร สุเหร่า พิพิธภัณฑ์ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์

สุเหร่าโมฮัมหมัด อาลี (The Mohammad Ali Mosque) ออกแบบโดยสถาปนิกชาวกรีก สร้างในปี ค.ศ. 1830 เสร็จปี ค.ศ. 1848 ใช้เวลาในการสร้างนานกว่า 18 ปี นับเป็นสุเหร่าที่ใหญ่และสูงที่สุดในกรุงไคโร ตัวอาคารสร้างจากหินอลาบาสเตอร์ (Alabaster) ต้องการให้มีรูปแบบเหมือน Blue Mosque ที่อิสตันบูล แต่ทำได้ไม่เหมือน ตรงกลางเป็นรูปสี่เหลี่ยมมีโดมขนาดใหญ่สูง 52 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 21 เมตร มีโดมขนาดเล็กรองรับอีก 4 มุม ตัวอาคารสร้างด้วยหิน อลาบาสต์ ตกแต่งด้วยโคมไฟระย้างดงามตามแบบศิลปะอิสลาม หน้าสุเหร่ามีหอนาฬิกา ที่พระเจ้าหลุยส์ฟิลิปป์แห่งฝรั่งเศส มอบให้รัฐบาลอียิปต์เป็นของขวัญ แลกเปลี่ยนกับเสาโอเบลิสต์ ปัจจุบันตั้งอยู่ที่กรุงปารีส

Coptic Cairo Coptic Cairo หรือย่านเมืองเก่าไคโร มีเอกลักษณ์เป็นพิเศษเพราะภายในย่านนี้จะได้เห็นถึงการเข้ามามีอิทธิพลของศานาคริสต์ในอียิปต์ เมื่อเดินผ่านตรอกซอกซอยของเมืองเก่า จะพบโบสถ์เซนต์เซอร์จิอุสและโบสถ์ซานตาบาร์บารา ถัดไปจะเป็นโบสถ์ยิวเบ็น เอซรา และโบสถ์เซนต์ไซมอน ซึ่งสลักอยู่บนเนินเขาโมคัตตัม

พิพิธภัณฑ์คอปติค ไคโร (The Coptic Museum) พิพิธภัณฑ์คอปติก (The Coptic Museum) ตั้งอยู่ที่คอร์ปติก ไคโร ประเทศอียิปต์ เป็นศูนย์รวมชุมชนคริสเตียนในอียิปต์แห่งเดียวของอียิปต์  พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นที่จัดเก็บผลงานการประดิษฐ์ต่างๆ จากประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรมของคริสตศาสนาในยุคต้นๆ ตั้งแต่สมัย Greco-Roman ถึงยุคอิสลาม ซึ่งมีอายุยาวนานนับตั้งแต่โรมันเข้ามามีบทบาทในการจัดการอียิปต์ และถึงแม้ชาวเปอร์เซียจะสามารถยึดครองอียิปต์ต่อจากที่กรุงคอนสแตนตินล่มสลายแล้ว แต่ชุมชมแห่งนี้ก็ยังคงอยู่จวบจนถึงปัจจุบัน

โบสถ์แขวน Hanging Church (El Muallaqa, Sitt Mariam, St Mary) โบสถ์แขวนของพระแม่มารี ของกรีกออร์ทอดอกซ์ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 ถึงศตวรรษที่ 13 ในปี ค.ศ. 1047 ตั้งอยู่ใจกลางเขตไคโรเก่า เป็นหนึ่งในโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในอียิปต์ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีหลังคาไม้ในรูปทรงเรือโนอาห์ ตกแต่งภายในด้วยไม้ซีดาร์ เพดานหีบไม้ และธรรมาสน์หินอ่อนรองรับด้วยเสา 12 ต้น สถานที่แห่งนี้ ได้ถูกกำหนดให้เป็นที่พำนักอย่างเป็นทางการของสมเด็จพระสันตะปาปาคอปติกออร์โธดอกซ์

Church of St. Barbara โบสถ์เซนต์บาร์บาราเป็นหนึ่งในโบสถ์เก่าแก่ของกรุงไคโรที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เดิมทีสร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่นักบุญไซรัสและนักบุญยอห์นผู้ซึ่งได้รับการบูชาเพราะพลังแห่งการรักษา โบสถ์เล็ก ๆ ที่มุมตะวันออกเฉียงเหนือของอาคารเป็นที่ระลึกถึงผู้พลีชีพสองคนนี้

Coptic Orthodox Church of St. George (Mari Girgis) โบสถ์เซนต์จอร์จเป็นโบสถ์กรีกออร์โธดอกซ์ภายในป้อมบาบิโลนในคอปติกไคโร เป็นส่วนหนึ่งของอารามโฮลีปิตาธิปไตยแห่งเซนต์จอร์จ ภายใต้พระสังฆราชกรีกออร์โธดอกซ์แห่งอเล็กซานเดรีย และแอฟริกาทั้งหมด โบสถ์มีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 10 (หรือก่อนหน้านั้น) โครงสร้างปัจจุบันถูกสร้างขึ้นใหม่หลังจากเกิดไฟไหม้ในปี พ.ศ. 2447 การก่อสร้างเสร็จสิ้นในปี พ.ศ. 2452 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 สมณศักดิ์ของอารามมียศเป็นบิชอปที่มีบรรดาศักดิ์เป็นบิชอปบาบิโลนอส

Synagogue Ben Ezra เดิมทีโบสถ์คอปติกถูกเปลี่ยนเป็นโบสถ์ยิวในศตวรรษที่ 11 ตามประเพณีของชาวยิว นี่คือสถานที่ซึ่งผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์เทศนาในศตวรรษที่ 11 ในขณะที่คอปต์เชื่อว่าเป็นสถานที่ที่พบทารกน้อยโมเสสในตะกร้า

Church of St. Sergius and Bacchus โบสถ์เซนต์เซอร์เจียส (Church of Saint Sergius) โบสถ์คริสต์ในแดนมุสลิมและเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในกำแพงเสาหิน ตั้งแต่ศตวรรษที่ 3-4 กล่าวกันว่ายังเป็นที่หลบภัย ของครอบครัวพระเยซูคริสต์จากเยรูซาเล็ม ได้เดินทางหลบหนีมาซ่อนภัย ในประเทศอียิปต์เป็นเวลา 4 ปี

โบสถ์ในถ้ำ (Cave Church) “โบสถ์ในถ้ำ” ขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาโมกัตทัมในกรุงไคโรของอียิปต์ โดยโบสถ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นช่วงทศวรรษ 1970 และรองรับศาสนิกชนได้มากถึง 20,000 คน สำหรับโบสถ์แห่งนี้มีชื่อว่า “อารามเซนต์ไซมอน” (Saint Simon The Tanner Monastery) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Cave Church” ตั้งอยู่บนภูเขาโมกัตทัม (Mokattam) ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำไนล์ กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ สร้างขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1970

จุดเริ่มต้นของที่นี่มาจากในปี ค.ศ.1969 ผู้ว่าการกรุงไคโร ได้ตัดสินใจย้ายกลุ่มคนเก็บขยะทั้งหมดให้มาอาศัยอยู่ในที่เดียวกัน ซึ่งต่อมา ได้กลายมาเป็นหมู่บ้าน Zabbaleen (หมายถึง คนเก็บขยะ) ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านล่างของภูเขาโมกัตทัม กลุ่มคนเก็บขยะเหล่านี้เป็นชาวคริสต์ นิกายคอปติกออร์โธดอกซ์ (เป็นนิกายที่มีอยู่ในประเทศอียิปต์) ซึ่งยังคงสืบทอดความเชื่อกันต่อมา และเนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จึงมีความต้องการสร้างโบสถ์เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจ โดยโบสถ์คริสต์แห่งแรกถูกสร้างขึ้นในหมู่บ้าน แต่หลังจากเกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในบริเวณใกล้เคียง จึงได้เริ่มการก่อสร้างโบสถ์ขึ้นตรงบริเวณริมหน้าผา การก่อสร้างเลือกใช้ถ้ำที่มีอยู่ก่อนแล้ว และทำทางลาดลงไปด้านล่างเข้าไปสู่ด้านใน มีที่นั่งที่สามารถรองรับคริสตศาสนิกชนได้จำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีถ้ำอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียงที่ถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของอาราม และอารามแห่งนี้ยังได้ขึ้นชื่อว่าเป็นโบสถ์คริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลางอีกด้วย