Menu

Aswan

โปรแกรมท่องเที่ยว Aswan

(ท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี)

เมืองแห่งมนต์ขลัง อัสวาน มีชื่อเดิมว่า Swenett ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอียิปต์ คำว่าอัสวานมาจากคำว่า “Soun” ในภาษาอียิปต์โบราณซึ่งแปลว่าตลาด อัสวานได้ชื่อนี้เพราะเป็นประตูทางยุทธศาสตร์สู่ภาคใต้ในสมัยโบราณ และเป็นแหล่งหินแกรนิตที่ใช้สำหรับทำเสาโอเบลิสก์ส่งไปยังวิหารต่างมทั่วอียิปต์

อัสวานเป็นที่รู้จักจากทิวทัศน์ของหุบเขาไนล์ที่สวยงาม แหล่งโบราณคดีที่สำคัญ และกลิ่นอายที่เงียบสงบ อากาศที่นี่อบอุ่นตลอดทั้งปี เมืองนี้มีทิวทัศน์ที่สวยงามและน่าดึงดูดใจสำหรับการล่องเรือผ่านแม่น้ำไนล์ด้วย felucca (เรือใบของอียิปต์) แม่น้ำไหลมาจากทะเลสาบ Nasser ผ่านเกาะต่าง ๆ ล้อมรอบด้วยหินแกรนิตสีดำและต้นไม้เขียวขจี การล่องเรือไปยังสถานที่ทางประวัติศาสตร์ เช่น Philea เกาะ Elephantine พิพิธภัณฑ์ Aswan สุสาน Agha Khan อาราม St. Simeon และ Botanical Island สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอื่นๆ ได้แก่ วิหารอาบูซิมเบล วิหารคอมออมโบ พิพิธภัณฑ์นูเบียน และเขื่อนอัสวานไฮแดม

อุณหภูมิเฉลี่ย (°C)ม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.
สูงสุด / ต่ำสุด23/926/1030/1435/1938/2241/2541/2640/2539/2436/2029/1524/11

มหาวิหารอาบูซิมเบล (Abu Simbel) วิหารขนาดใหญ่ สร้างขึ้นเมื่อปี 1,270 BC (3,260 ปีมาแล้ว) โดยฟาโรห์รามเสสที่ 2 (Ramses II) สกัดเจาะภูเขาทั้งลูก ประกอบด้วยวิหารของฟาโรห์รามเซสที่ 2 และวิหารของพระนางเนเฟอร์ตารี (Nefertari) ซึ่งเป็นมเหสีที่รักของพระองค์ วิหารอาบูซิมเบลนี้งดงามและยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงก้องโลก เพราะเมื่อมีการสร้างเขื่อนขนาดยักษ์ที่อัสวาน จะทำให้วิหาร 17 แห่ง จมลงอยู่ใต้น้ำ องค์การยูเนสโก้ ต้องมาช่วยยกย้ายให้พ้นน้ำ วิหารอาบูซิมเบลแห่งนี้ก็ถูกยกสูงจากพื้นดิน 65 เมตร ซึ่งเป็นงานที่ยากมาก ใช้เวลาทั้งสิ้น 4 ปี เสียค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 40 ล้านเหรียญสหรัฐ

ล่องเรือใบโบราณ หรือที่เรียกกันว่า เรือเฟลุคกะ (Felucca) เพลิดเพลินกับการนั่งเรือ Felucca ล่องเรือไปตามแม่น้ำไนล์ รอบๆ เกาะช้าง(Elephantine Island) ซึ่งเป็นที่ตั้งชุมชนแห่งแรกของอัสวาน เมื่อกว่า 5,000 ปีก่อน และเยี่ยมชมสวนพฤกษศาสตร์(Botanical Gardens)  ซึ่งอุดมไปด้วยพันธุ์ไม้ที่นำเข้ามาจากทั่วทุกมุม โลกในปี พ.ศ. 2442

เขื่อนยักษ์อัสวาน (Aswan High Dam) เขื่อนขนาดใหญ่สร้างขึ้นในปี คศ 1960 เพื่อช่วยให้มีน้ำหล่อเลี้ยงไร่นาตลอดปี อีกทั้งยังใช้พลังน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของคนทั้งประเทศ และเพื่อป้องกันน้ำไหลท่วมจากแม่น้ำไนล์เวลาฝนตกหนัก เขื่อนแห่งนี้มีความยาว 36,000 เมตร

เขื่อนหินถมข้ามแม่น้ำไนล์ที่ Aswan สร้างเสร็จในปี 1970 (และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 1971) ด้วยราคาประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ เขื่อน Aswan High Dam ก่อให้เกิดประโยชน์มหาศาลต่อเศรษฐกิจของอียิปต์ ป้องกันน้ำท่วมจากแม่น้ำไนล์ประจำปี เพิ่มประโยชน์สูงสุดบนพื้นที่ชลประทาน รดน้ำพื้นที่ใหม่หลายแสนเฮกตาร์ ปรับปรุงการเดินเรือทั้งด้านบนและด้านล่างอัสวาน และเพื่อผลิตไฟฟ้าพลังน้ำจำนวนมหาศาล (กังหัน 12 ตัวของเขื่อนสามารถ ผลิตไฟฟ้าได้ 1 หมื่นล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อปี) อ่างเก็บน้ำของเขื่อนยังรองรับอุตสาหกรรมประมงอีกด้วย

การสร้างอ่างเก็บน้ำของเขื่อนทำให้จำเป็นต้องย้ายที่ตั้งวิหารอาบูซิมเบลของอียิปต์โบราณซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งมิฉะนั้นจะต้องจมอยู่ใต้น้ำ ชาวอียิปต์เก้าหมื่นคน (ชาวนา) และชาวนูเบียนชาวซูดานต้องย้ายที่อยู่ใหม่ ชาวอียิปต์ 50,000 คนถูกส่งไปยังหุบเขา Kawm Umbū ซึ่งอยู่ห่างจาก Aswan ไปทางเหนือ 50 กม. (30 ไมล์) เพื่อสร้างเขตเกษตรกรรมใหม่ที่เรียกว่า Nubaria และชาวซูดานส่วนใหญ่ได้ตั้งถิ่นฐานใหม่รอบ Khashm al-Qirbah ประเทศซูดาน

เสาหินโอเบลิสก์ (Unfinished Obelisk) เป็นเสาโอเบลิสก์ที่สร้างไม่เสร็จ เนื่องจากแตกตรงกลาง ทำจากแหล่งหินแกรนิตในอัสวาน โดนการเซาะร่องด้านข้าง, ด้านบน และด้านล่าง แล้วเจาะรูใต้เสา จากนั้นเอาท่อนไม้สอดเข้าไปในรู แช่น้ำทิ้งไว้ 10 วัน น้ำจะทำให้ไม้ขยาย แล้วหินจะกะเทาะออกมาเอง จากนั้นนำไปแกะสลักอักษรเฮโรกริฟฟิคลงไป แล้วขนย้ายโดยเรือไปตามแม่น้ำไนล์ ไปไว้ตามวิหารต่างๆ เช่น คาร์นัค ลักซอร์ แท่งหินนี้เป็นของพระนางฮัทเชปซุท หากไม่แตกร้าวจะเป็นเสาโอเบลิสก์ที่สูงที่สุดในอียิปต์ ปัจจุบันเสาโอเบลิสก์ได้กลายเป็นอนุสาวรีย์ชนิดหนึ่งของอียิปต์โบราณ สร้างเพื่อบูชาแด่เทพ อามุน-รา หรือ สุริยะเทพ

วิหารฟิเล (Philae Temple) วิหารที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพีไอซิส เป็นวิหารที่มีความสําคัญและงดงามมาก ในอดีตวิหารเคยถูกสร้างขึ้นบนเกาะฟิเล กลางแม่น้ำไนล์ แต่เมื่อเขื่อนอัสวานสร้างเสร็จ วิหารทั้งวิหารก็จมอยู่ใต้ระดับน้ำ นานาชาติจึงเข้ามาช่วยเหลือโดยการทำทำนบกั้นน้ำ และค่อยๆย้ายหินทีละก้อน ขึ้นมาสร้างวิหารแห่งใหม่ที่เกาะอากิลเกีย (Agilkia Island) แทนที่ตั้งเดิม

วิหารคอมออมโบ (Kom Ombo Temple) หรือ “วิหารสองเทพเจ้า” เป็นวัดที่มีความสวยงามมาก  วิหารแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ครอบคลุมมาถึงแม่น้ำไนล์ สามารถเห็นวิวของแม่น้ำไนล์อันงดงาม  วิหารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้า 2 องค์ คือ บูชาเทพโซเบค ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่มีหัวเป็นจระเข้ โดยชาวอียิปต์โบราณถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์และเป็นเทพผู้สร้างโลก และอีกฝั่งหนึ่งสำหรับบูชาเทพฮอรัส ซึ่งเป็นเทพที่มีหัวเป็นเหยี่ยว โดยเทพฮอรัสนี้ถือเป็นเทพแห่งสงคราม และการแพทย์

พิพิธภัณฑ์มัมมีจรเข้ (Crocodile Mummies Museum) พิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมซากมัมมี่จระเข้แห่งลุ่มแม่น้ำไนล์ในอดีตที่มีอายุหลายพันปี แต่ยังคงความสมบูรณ์มาจนถึงปัจจุบัน นอกจากซากมัมมีจระเข้แล้ว ยังมีซากมัมมี่สัตว์อื่นๆ ให้ได้ชม เช่น แมว ลิง เป็นต้น

วิหารเอ็ดฟู (Edfu Temple) สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพฮอรัส บุตรของโอชิริสและไอซิส เป็นเทพเจ้าแห่งท้องฟ้าผู้ปกครองอียิปต์หลังทำสงครามชนะเซ็ท วิหารแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ปโตเลมี ในปี 237 BC โดยสร้างเพิ่มเติมจากวิหารเก่าในยุคอาณาจักรใหม่ กว่าจะมาแล้วเสร็จในปี 57 BC นับเป็นวิหารของอียิปต์โบราณที่ยังคงมีสภาพสมบูรณ์สวยงามที่สุด วิหารแห่งนี้ถูกฝังกลบอยู่ใต้ผืนทรายลึก 12 เมตรมาหลายศตวรรษ มีบ้านเรือนผู้คนปลูกสร้างอยู่เหนือวิหาร จนกระทั่งรัฐบาลฝรั่งเศสมาสำรวจ และบูรณะขุดแต่งวิหารกลับมาอีกครั้ง