Alexandria

อเล็กซานเดรียเป็นเมืองท่าเมดิเตอร์เรเนียนของประเทศอียิปต์ เป็นที่ตั้งของประภาคารที่ติดอันดับหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ มีห้องสมุดที่เป็นแหล่งความรู้ของนักปราชญ์เลื่องชื่อหลายท่านของโลก เคยถูกเผาทำลายในอดีต และได้สร้างใหม่อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง ด้วยรูปแบบล้ำสมัย เมืองนี้ยังมีสถานที่สำคัญสมัยกรีก-โรมันให้เที่ยวชม และมีป้อมปราการ Qaitbay Citadel สมัยศตวรรษที่ 15 ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชม

หลุมฝังศพใต้ดิน (Alexandria Catacombs) สุสานแห่งอเล็กซานเดรีย หรือ หลุมฝังศพใต้ดินแห่งอเล็กซานเดรีย (Catacombs of Kom El Shoqafa) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งโลกยุคกลาง สุสานของขาวโรมันในอดีตมีกว่า 50,000 ศพ สุสานใต้ดินแห่งนี้มีสามชั้น ชั้นที่ 1 มีไว้สำหรับลำเลียงโลงและศพ ชั้นที่ 2 เป็นที่ฝังศพ และชั้นที่ 3 ใช้เป็นที่รวมญาติเพื่อระลึกถึงผู้ตาย โดยมีการเลี้ยงสังสรรค์กันทั้งวัน ซึ่งเล่ากันว่าตอนที่นักโบราณคดีค้นพบที่นี่เป็นครั้งแรก บนโต๊ะยังมีขวดไวน์และจานวางอยู่ 

เสาปอมเปย์ (Pompey’s Pillar) เสาที่แสดงถึงการฉลองชัยชนะของชาวโรมัน เป็นอนุสาวรีย์โบราณในสมัยโรมันปกครองอียิปต์ เป็นเสาแกรนิต สูง 27 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นเสาหินที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างขึ้นมาอีกด้วย จากประวัติการสร้างนั้น ปอมเปย์ เป็นชื่อเพื่อนสนิทของ จูเลียส ซีซ่า ผู้นำที่ยิ่งใหญ่แห่งโรมัน ซึ่งภายหลังทั้งสองได้กลายเป็นศัตรูกัน และปอมเปย์ได้หลบหนีมายังเมืองอเล็กซานเดรียในอียิปต์ และได้ถูกชาวอิยิปต์ฆ่าเสียชีวิต

หอสมุดอเล็กซานเดรีย (Alexandria Library) ห้องสมุดอเล็กซานเดรีย ตั้งอยู่ที่เมืองอเล็กซานเดรีย ทางเหนือสุดของประเทศอียิปต์ เป็นเมืองเก่าที่ติดอยู่กับทะเลเมดิเตอเรเนียน เคยปกครองโดยชาวเมืองอียิปต์ดั้งเดิม ก่อนตกเป็นของกรีก-โรมัน จนมาถึงการเข้ามาของศาสนาอิสลามจาก อาณาจักรออโตมัน เมืองนี้จึงมีศิลปะของทางกรีก โรมัน ตุรกี ปะปนกันอยู่ โดยห้องสมุดแห่งนี้เดิมถูกทำลายไป ในปี 391 ช่วงยุคสมัยของกษัตริย์ธีออโดเชียส แห่งโรมัน ได้สั่งให้ทำลายเอกสาร วัดวาอารามต่างๆ ที่ไม่ใช่ของศาสนาคริสต์ และถือว่าเป็นพวกนอกรีต

ในปัจจุบันทีมนักโบราณคดีของโปแลนด์และอียิปต์ ได้ทำการขุดค้นบางส่วนของ เมืองอเล็กซานเดรีย ก็ได้พบสิ่งก่อสร้างซึ่งมีลักษณะคล้ายห้องเรียนและหอประชุม ราว 2,000 ปีที่แล้ว ห้องสมุดแห่งนี้เคยเป็นศูนย์รวมของ นักคิดนักเขียนแห่งโลกโบราณ เป็นที่สะสมผลงานสำคัญของนักปราชญ์กรีก ทั้ง เพลโต โซเครติส และคนอื่นๆ แต่น่าเสียดายที่ผลงานเหล่านั้นถูกเผาทำลายไปพร้อมกับตัวห้องสมุด โดยนักประวัติศาสตร์ที่ชื่อ Mustafa al-Abbadi เป็นบุคคลแรกที่คิดฟื้นคืนชีพห้องสมุดห้องสมุดอเล็กซานเดรียขึ้นมาอีก ภายใต้อุปสรรคมากมาย แต่เมื่อรัฐบาลอียิปต์ รัฐบาลอิรัก รัฐบาลฝรั่งเศส ร่วมให้เงินทุนในการสร้าง และองค์การ Unesco ก็เห็นด้วยในการให้ผู้เชี่ยวชาญ การจัดสร้างห้องสมุดอเล็กซานเดรียให้ยิ่งใหญ่เหมือนในสมัยก่อน ใช้เวลาการสร้างใหม่ 12 ปี ด้วยเงินทุน 220 ล้านเหรียญสหรัฐ

ป้อมปราการเคตเบย์ (The Citadel of Qaitbay) ป้อมปราการซิทาเดล หรือ ป้อมปราการเคทเบย์ (The Citadel of Qaitbay) ป้อมปราการโบราณ ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สร้างขึ้นในปี 1176 โดยกษัตริย์ซาลามดิน โดยใช้หินจากปิรามิด แห่งกีซ่า มาสร้างกำแพงเพื่อเป็นป้อมปราการป้องกันประเทศจากสงครามครูเสด ป้อมซิทาเดลเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะ ภายนอกป้อมสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของกรุงไคโร สุเหร่า พิพิธภัณฑ์ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น ปิรามิด ปิระมิด ได้ ที่นี่มีพิพิธภัณฑ์ทหาร ตำรวจ อยู่ด้านนอกด้วย ส่วนภายในป้อม จะมี สุเหร่าโมฮัมหมัด อาลี ด้วย ถือว่าเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ ปัจจุบันเหลือเพียงส่วนที่เป็นฐานและได้มีรับการทะนุบำรุง 

พระราชวังมอนตาซาร์ (Montaza Palace) หรือ พระราชวังฤดูร้อน ตัวพระราชวังแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือ พระราชวัง Salamlek สร้างขึ้นในปี 1892 โดยกษัตริย์ Khedive Abbas II ส่วนที่ 2 คือ พระราชวัง Al-Haramlik ซึ่งเป็นพระราชวังส่วนที่ใหญ่กว่า สร้างขึ้นโดยกษัติย์ Fuad I  ในปี 1932 เพื่อเป็นพระราชวังฤดูร้อน เป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานกันระหว่างออตโตมันและฟลอเรนส์ ตัวพระราชวังมีหอคอย 2 หลัง ออกแบบสไตน์เรอเนซองส์ เคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์ราชวงศ์สุดท้ายของอียิปต์ ก่อนอพยพลี้ภัยทางเมืองไปต่างประเทศ พระราชวัง Salamlek ได้รับการปรับปรุงบูรณะใหม่ โดยประธานาธิบดีอันวาร์ เอล ชาดัต และใช้เป็นที่พำนักของประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ